เสียง ไทย
ม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์ ทายาทแห่งวังนาเคนทร์ ถูกเรียกตัวกลับจากต่างประเทศ เพื่อรับหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับ ภิงคาร รมช.ต่างประเทศผู้เป็นน้าชาย ด้วยรูปลักษณ์ที่เลิศล้ำ ร่ำรวยทรัพย์สมบัติทั้งชาติกำเนิดอันสูงส่ง ทำให้คุณชายภุชคินทร์กลายเป็นชายที่สาวไฮโซทั้งสังคมให้ความสนใจมากที่สุด รวมไปถึงไฮโซสาวสังคมหน้าใหม่อย่าง เจ้าอุรคา ณ เชียงตุง��������� ในงานเลี้ยงรับรองระดับชาติซึ่งแขกคนสำคัญระดับนักการเมือง ทูตานุทูต และชาวสังคมชั้นสูงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งนั้น ภุชคินทร์ได้พบกับเจ้าหญิงสูงศักดิ์เลอโฉมนามเจ้าอุรคา ที่มาปรากฏตัวพร้อมกับเครื่องแต่งกายสีเขียวโดดเด่นเป็นสง่ากับดวงหน้างดงาม ประดับรอยยิ้มลึกลับและอัญมณีรูปหยดน้ำสีเขียวเข้มแปลกตาที่เรียกว่า มณีนาคสวาท��������� เจ้าอุรคาก้าวเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของสังคมไฮโซอย่างลึกลับไม่มีใครรู้ เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงของเจ้าหญิงคนนี้ รู้กันแต่เพียงว่านอกจากความงามเจิดจรัสและฐานะอันร่ำรวย เธอยังมีความสามารถในการพยากรณ์แม่นระดับหาตัวจับยาก��������� คุณ ชายภุชคินทร์รู้สึกสะดุดตาสะดุดใจในบุคลิกงามสง่าท่าทีอันเปี่ยมไปด้วย ปริศนาและคำพูดคำจาที่ลึกลับกำกวมของเจ้าอุรคา ในขณะเดียวกันที่ความงามของเจ้าอุรคาไปโดนใจรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค เข้าอย่างจัง สุบรรณ ครุฑไพทูรย์ หรือที่นักข่าวเรียกกันว่า "รัฐมนตรีที่ถูกปองร้ายมากที่สุด" เขาก้าวขึ้นมาจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งงานถูกและผิดกฎหมาย ทำให้มีศัตรูมากมายถึงกับมีการโดนลอบปองร้ายอยู่หลายครั้งหลายครา และทุกครั้งเขาก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ จนได้สมญานามจากบรรดานักข่าวว่า "แมวเก้าชีวิต" เพราะถูกปองร้ายอยู่บ่อย ๆ สุบรรณจึงต้องมีนายตำรวจและมือปืนมือดีติดตามตลอดเวลา��������� สุบรรณพยายามหาทางเข้าไปตีสนิทกับเจ้าอุรคาทุกวิถีทางตามงานสังคม และด้วยความดูไม่น่าไว้วางใจของเจ้าอุรคา ทำให้คนใกล้ชิดของสุบรรณอย่าง ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ ซึ่งเป็นตำรวจติดตาม เพื่อนรักของภุชคินทร์ และ อำนาจ สมุนมือขวาที่ดูแลธุรกิจด้านมืดให้รมต.สุบรรณนั้น ต่างเกิดความหวาดระแวงและจับตามองเจ้าอุรคาอยู่เงียบ ๆ�������� ในคืนงานเลี้ยงงานหนึ่ง ตำรวจจับกุมตัวชายคนขับรถของเจ้าอุรคาพร้อมอุปกรณ์วางระเบิดได้ที่ใกล้กับรถ ของรมต.สุบรรณ แต่เจ้าอุรคากลับให้การปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับชายชาวต่างด้าวผู้ นั้น บอกแต่เพียงว่าชายคนนั้นเป็นญาติห่าง ๆ ของแม่บ้านและเธอไหว้วานให้ช่วยขับรถมางานเลี้ยงเท่านั้น ที่น่าประหลาดใจที่สุด คือในทันทีที่ตำรวจนำตัวชายมือระเบิดเข้าห้องขัง ชายต่างด้าวคนนั้นกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เล่นเอาตำรวจทั้งโรงพักงงเป็นไก่ตาแตก ร.ต.อ.ไพศิษฐ์สงสัยว่า เจ้าอุรคาและพรรคพวกน่าจะอยู่ในขบวนการอะไรสักอย่าง��������� ผู้กองไพศิษฐ์หอบเอาความขุ่นข้องใจไปขอให้คุณชายภุชคินทร์ซึ่งเป็นเพื่อน สนิทที่ทำงานอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยหาข่าวเกี่ยวกับเจ้าหญิงผู้ลึกลับคนนี้ เนื่องจากลำพังตัวเขาเองนั้นไม่สามารถเข้าถึงตัวเจ้าอุรคาได้เพราะเจ้าอุรคา ประกาศอย่างชัดเจนว่าเธอไม่สนใจเรื่องการเมืองและยังแสดงท่าทีไม่ให้ความ ร่วมมือกับตำรวจในทุกกรณี��������� แต่ภุชคินทร์กลับมิต้องใช้ความพยายามในการเข้าใกล้เจ้าอุรคาเท่าใดนัก เพราะเธอได้พาตัวเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตของเขา ด้วยการเข้ามาทำงานการกุศลร่วมกับหม่อมภาณี มารดาของภุชคินทร์ ประกอบกับเจ้าอุรคาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร้านเพชรพลอยของเจ้าประกายคำ ซึ่งเป็นร้านเพชรประจำของหม่อมภาณี ภุชคินทร์จึงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับเจ้าอุรคาบ่อยครั้ง��������� วันหนึ่ง หม่อมภาณีได้สร้อยพร้อมจี้พลอยล้อมเพชรเก่าแก่มาจากร้านของเจ้าอุรคาในราคา ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ พอภุชคินทร์เห็นก็สะดุดตาทันที เพราะจำได้ว่าเหมือนสร้อยที่เจ้าอุรคาห้อยติดตัวเป็นประจำ หม่อมภาณีบอกว่าพลอยสีเขียวเข้มจัดนั้นคือ พลอยนาคสวาท พลอยในตำนานเก่าแก่ ตำนานเล่าถึงพญานาคกับพญาครุฑ สองเผ่าพันธุ์กึ่งเทพกึ่งอมนุษย์อันเป็นอริศัตรูกันมาแต่โบราณ พญานาคมีที่อยู่ในนครใต้บาดาลที่เรียกว่า โภควดี ส่วนพญาครุฑนั้นอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์��������� ครั้ง หนึ่งพญานาคกับพญาครุฑเกิดการต่อสู้กันและพญานาคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ขณะที่ใกล้จะตาย พญานาคกระอักเลือดออกมา 3 ครั้ง เลือดที่ออกมาครั้งแรกกลายเป็นพลอยสีเขียวเข้มจัด นั่นคือ นาคสวาท ส่วนเลือดที่กระอักออกมาครั้งที่ 2 นั้นได้กลายเป็น มรกต ส่วนครั้งสุดท้ายที่เลือดใกล้หมดปนกับน้ำลายจึงกลายเป็นพลอยสีเขียวอ่อนจาง มีเส้นสีแดงเจืออยู่ เรียกว่า ครุฑธิการ��������� ทั้งที่ไม่เคยสนใจเรื่องเพชรพลอยมาก่อน แต่คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสนใจพลอยและตำนานพญาครุฑและนาคเป็นอันมาก และเมื่อเขาสัมผัสกับพลอยนาคสวาท เขาถึงกับหน้ามืดซวนเซเกือบจะล้มลง ความรู้สึกเจ็บปวดแปลบเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ภาพแปลกประหลาดแวบเข้ามาในหัวสมองอย่างรวดเร็ว ไม่ปะติดปะต่อ จับใจความไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นคนสมัยใหม่ ภุชคินทร์เชื่อว่าคงเกิดจากการแพ้สารบางอย่างในพลอยมากกว่าจะเป็นเรื่องลึก ลับที่หาคำตอบไม่ได้