นำแสดงโดย จัสติน ลอง (เล่นคนอึดตายยากเป็นลูกชายบรูซ วิลลิสไง) โจน่า ฮิลล์ (จับตาให้ดี หนุ่มตุ้มตุ้ยคนนี้แกมาแรงทีเดียวช่วงนี้) ไบลค์ ไลฟ์ลี (ความน่ารักของเธอผ่านตามาจากหนังที่ว่าด้วยสาววัยใสเพื่อนซี้ 4 คนที่ใช้กางเกงยีนส์ร่วมกัน และเกิดเรื่องสนุกๆ ขึ้นกับพวกเธอมากมาย ได้ข่าวว่ากำลังจะมีภาค 2 ตามมาด้วย) หนังเหมาะกับวัยรุ่นไทยมากๆ ด้วยบริบททางความคิดที่ดูไปก็งงไป ด้วยเข้าใจมาตลอดว่าฝรั่งหรือชาวต่างประเทศมีความคิดหัวก้าวหน้าในเรื่องการ ศึกษามากกว่าในไทย เหมือนจะคุ้นเคยกับหนังชีวิตหลังวัยไฮสกูลที่จะต้องไปค้นหาตัวเองเสียก่อน ค่อยกลับมาเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพราะจะได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบ ถนัด สนใจ และอยากเรียนจริงๆ หรือเรียนแล้วได้นำไปใช้จริงๆ ไม่ใช่ สักแต่ว่าจบๆ ออกมาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันเหมือนประเทศกำลังด้อยพัฒนาบางประเทศ อย่างกับว่าหนังทำมาเพื่อวัยรุ่นไทยและพ่อแม่ผู้ปกครองโดยเฉพาะยังไงยังงั้น สิ่งที่เกิดกับครอบครัวของบาร์เทิลบี พระเอกในเรื่อง ก็ไม่ผิดไปจากสิ่งที่เกิดในบ้านเราเท่าไรเลย พ่อบอกกับเขาว่า จะยังไงก็ได้นะ แต่แกต้องเข้ามหาวิทยาลัย แล้วหนึ่งเทอมในมหาลัยของที่อเมริกา ไม่ใช่เสียเงินเป็นหมื่นบาทเหมือนบ้านเรา ของเขาเทอมละหมื่นเหรียญจ้ะ เขาไม่อยากให้พ่อแม่ต้องเครียดเพราะลูกไม่มีมหาวิทยาลัยไหนรับ ด้วยการสร้างมหาลัยขึ้นมาเองเสียเลย แล้วก็ปลอมทุกอย่างขึ้น แต่เขาทำคนเดียวไม่ได้หรอกเรื่องนี้ มีเพื่อนๆ ให้ความช่วยเหลือหลายด้านด้วยกัน อาทิ เชรดเดอร์เพื่อนสนิทถูกขอร้องแกมบังคัยให้ช่วยทำเวบของมหาลัย รอรี่สาวหัวแดงจัดหาสถานที่ เกล็นหนุ่มเพื้ยนออกแบบเสื้อแจ็คเก็ตประจำสถาบัน นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายคนร่วมหัวจมท้ายไปกับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลุงของเชรดเดอร์ที่รับหน้าที่เป็นอธิการบดีหลอกๆ ให้ด้วย ปัญหายิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วยการที่มีนักศึกษาซึ่งพลาดหวังจากที่อื่นๆ คลิกเข้ามาในเวบที่ใช้ได้จริง สมัครและโอนเงินมาเรียนที่นี่เรียบร้อย พวกเขามารอบาร์เทิลบีและผองเพื่อนในวันปฐมนิเทศพร้อมกันอยู่ที่หน้าประตู เขาจะจัดการและอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างไร ----------------------------------------------- อย่างไรก็ตาม หลักสูตรของที่นี่ไม่มีอะไรตายตัว แต่จะมีไวท์บอร์ดในมหาลัยให้ทุกคนเขียนสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนลงไป "อยากจะเรียนอะไร" เดิมทีคำถามนี้ทำให้ทุกคนจุก เพราะต่างเคยเรียนในระบบชี้นำมาตลอด (ไม่ต่างจากเมืองไทยจริงๆ) พอได้เลือกเองเลยงง (แต่ในไทยยังไม่ได้เลือกเองจริงๆ อยู่นั่นเอง) ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรตรงไหนยังไง แต่พอได้เลือกเองก็น่าจะตั้งใจเรียนมากขึ้นนะ น้องสาวของพระเอกก็ใช่ย่อย ถึงจะยังเด็กแต่รู้ทันพี่ชายในทุกๆ เรื่อง มี อยู่ตอนหนึ่งเด็ดมาก ที่เธอขอค่าปิดปากไม่ฟ้องพ่อแม่เรื่องพี่เรียนในมหาลัยเก๊ เป็นสกูตเตอร์และบัตรประชาชนปลอม อย่างแรกพี่ชายรับปากทันที แต่อย่างหลังพี่ชายนึกห่วง ไม่อยากให้น้องแอบเอาไปกินเหล้าก็เลยจะไม่ให้ แต่ขอโทษทีคำตอบน้องสาวสุดเจ๋งเลย ไปดูเอาเองว่าน้องเค้าบอกว่ายังไง ถ้าไม่มีตัวร้ายเรื่องคงขาดสีสัน บทร้ายจึงต้องมีไว้เพิ่มรสชาติ ด้วยอธิการบดีของมหาวิทยาลัยฮาร์มอนสุดแสบ (ที่ฮาของบทนี้อยู่ที่หน้าตา ไปดูกันเอาเองแล้วจะรู้) ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก และเขามีนโยบายที่จะขอซื้อที่ที่พระเอกและมหาลัย เพื่อสร้างความโอ่อ่าให้กับทางเข้าของมหาลัยตัวเอง จึงหาทางให้มหาลัยของพระเอกของเรามีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นจนได้ ปัญหาที่ทำให้บาร์เทิลบีและเพื่อนๆ ต้องกุมขมับ นั่นคือ มหาลัยของพวกเขาจะต้องถูกปิดหากไม่ไปจัดการเรื่องราวกับสถาบันรับรองสถาน ศึกษาให้ถูกต้อง และองค์ประกอบของมหาลัยที่ทางสถาบันจะรับรองให้นั้นต้องประกอบไปด้วย หนึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการเรียน อาทิ ห้องสมุด สนามกีฬา ห้องพยาบาล สองคือหลักสูตรการเรียนการสอน และสาม คือคณาจารย์ สามข้อนี้จะหยุดพวกเขาจากการเป็นนักศึกษาที่มหาลัยนี้หรือไม่ ต้องไปลุ้นกันเอง แม้จะมีมุกตลกที่บางครั้งดูทะลึ่งไปบ้าง แต่หากดูโดยรวมแล้ว ก็พอจะมองข้ามไปได้ ด้วยพล็อตที่ว่าด้วยความหมายของการศึกษา และมหาวิทยาลัย อยากให้น้องๆ วัยเรียน โดยเฉพาะในระดับมัธยมได้ดูกัน เผื่อจะมีมุมมองทางการศึกษาใหม่ที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น หนังนอกจากจะจิกกัดประเพณีการรับน้องและการศึกษาแบบชี้นำที่ไร้ประสิทธิภาพในอเมริกาแล้ว ยังด่าไปถึงระบบประกันสุขภาพ อีกทั้งยังโยงไปเรื่องการเมืองได้อีกด้วย สังเกตตอนจบกันให้ดีๆ ล่ะ ดูหนังจบนอกจากจะอยากให้มีมหาวิทยาลัยแบบนี้อยู่จริงๆ แล้ว ยังทำให้นึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อ ”โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง” และโรงเรียนประถมโทโมเอ ที่เป็นเหมือนโรงเรียนในฝันของเด็กทุกคนที่ได้อ่าน