3 แผ่นจบ
เสียง ไทย
ใต้ท้องทะเลกว้างใหญ่ของไทยที่สวยงามไปด้วยเหล่าสัตว์น้ำและปากะรังหลากสี ทันใดนั้นร่างของนางเงือกสองนางที่หลุดมายังท้องทะเลเพราะรอยแยกของเปลือก โลกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวของสึนามิ เงือกนางหนึ่งรูปร่างหน้าตาสวย ผิวขาว ดูบริสุทธิ์ อ่อนโยนชื่อ มีนานุช อีกนางเงือกสาวรุ่นพี่สวยสง่าสมวัยคือ มัสยา ขณะเดียวกันที่ภาควิชาวิจัยทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์ ศ.ดร.ธารา ผู้เป็นอาจารย์ของภาควิชานี้ กำลังออกเรือกลางทะเลเพื่อทำการวิจัยเรื่องมลพิษที่มีต่อสัตว์น้ำ โดยมี ชลนที ลูกชายของเขาที่เป็นนักศึกษาปีสุดท้ายของภาควิชาขอตามมาด้วย ขณะที่กำลังเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำ ชลนทีพลัดตกทะเลพยายามตะเกียกตะกายว่ายเข้าหาเรือแต่เป็นตะคริวจนจมน้ำ ธาราโดดลงไปช่วยแต่หาไม่เจอ ธาราร้องไห้อย่างสิ้นหวัง แต่ขณะนั้นสายตาเขาเหลือบไปเห็นร่างด้านหลังของนางเงือกรำไร ๆ ที่ผิวน้ำ ธาราถึงกับช็อคไม่เชื่อสายตาตนเอง ขณะที่ชลนทีหมดสติจมดิ่งลงใต้ท้องทะเล เขาได้รับการช่วยเหลือจากนางเงือกทั้งสอง ชลนทีถูกพาขึ้นฝั่งที่หาดร้าง มัสยากลัวว่าชลนทีจะตาย บอกให้มีนานุชช่วยผายปอด เมื่อมีนานุชเดินขึ้นฝั่งครีบและหางนางเงือกได้กลายเป็นขาเหมือนคนธรรมดา ในขณะที่มีนานุชจะก้มประกบริมฝีปากผายปอด ชลนทีก็ลืมตาคืนสติมาพอดี ทั้งสองต่างตกใจ ชลนทียิ่งตกใจเป็นร้อยเท่าที่เห็นว่าสาวน้อยน่ารักคนนี้กำลังเปลือยอยู่ เขาจึงรีบถอดเสื้อเชิ้ตให้ใส่ ส่วนมัสยาโดดหนีหลบไปหลังโขดหิน พอดีกับที่ กุ้งเผา และปูม้า เพื่อนซี้ของชลนทีมาเจอพอดี ทั้งชลนที กุ้งเผา และปูม้าต่างก็มึนกับภาษากลอนเหมือนวรรณคดีไทยของมีนานุช และเมื่อถามถึงบ้านว่าอยู่ไหนก็ได้คำตอบว่าอยู่ใต้สมุทร กุ้งเผาลงความเห็นว่าต้องบ้าแน่ ๆ ชลนทีพาลเข้าใจว่ามีนานุชต้องความจำเสื่อมเพราะช่วยตนที่จมน้ำ เลยอยากตอบแทนด้วยการดูแล จึงแอบพามีนานุชเข้าพักที่หอพักชายของมหาวิทยาลัย โดยผ่านด่าน น้าหมึก รปภ.จอมเฮี้ยบ ประจำหอพักไปได้อย่างหวุดหวิด ชลนที กุ้งเผา และปูม้าปรึกษากัน แล้วคิดว่าต้องส่งมีนานุชให้ตำรวจ แต่ชลนทีแย้งว่า ถ้าเลอะเลือนจนให้การอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นประโยชน์ ระหว่างนั้นมีนานุชเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตบนโลก เริ่มจากเห็นชลนทีนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ ชลกับกุ้งเผาเลยอธิบายว่าตนกำลังหาข้อมูลทำวิจัย ทำให้มีนานุชได้สัมผัสและเปิดโลกมนุษย์กว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ภาควิชาวิจัยทางทะเล บุรินทร์ นักศึกษาหนุ่ม หล่อเนี้ยบ ลูกชายของ ดร.นาวิน เจ้าของและอธิการบดีของมหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์ กำลังเตรียมงานปาร์ตี้นักศึกษาประจำปี โดยมีไฮไลท์การประกวดในคอนเซ็ปต์ มิสเมอร์เมด (Miss Mermaid) โดยคนเสนอไอเดียคือ วิฬาร์ ดาวมหาวิทยาลัยสวย เริ่ด เชิด หยิ่ง ซึ่งหวังคว้าตำแหน่งนี้ และเมื่อวิฬาร์ได้ยินว่าชลนทีหนุ่มในดวงใจแอบพานักศึกษาหญิงขึ้นห้อง วิฬาร์จึงบุกไปราวีที่หอของชลนที เมื่อเจอมีนานุช ชลนทีไม่รู้จะอธิบายยังไง จึงแก้ตัวไปว่ามีนานุชเป็นญาติของปูม้าที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ ปูม้าที่ชอบชลนทีอยู่จึงไม่กล้าขัด และพามีนานุชไปอยู่เป็นรูมเมท และด้วยหน้าตาที่น่ารักของมีนานุช ก็ทำให้วิฬาร์ระแวงว่าจะมาแย่งชลนทีกับตน ที่ร้านอาหารตามสั่งของ เจ๊กั้ง ทุกคนต่างแปลกใจกับพฤติกรรมประหลาด ๆ ของมีนานุช เช่น ดื่มน้ำเยอะมากแถมเหยาะเกลือไปครึ่งกระปุกก่อนดื่ม และไม่ยอมกินอาหารอื่นใดนอกจากสาหร่าย เจ๊กั้งนึกว่ามีนานุชสติเพี้ยน มีแต่ นีโม่ ลูกสาววัย 7 ขวบของเจ๊กั้งที่เป็นเด็กช่างฝันชอบอ่านนิทานที่ชอบคุยกับมีนานุช เพื่อน ๆ ทุกคนเริ่มจับสังเกตได้ว่า ชลนทีกับมีนานุชเริ่มมีใจให้กัน แต่ชลนทียังปากแข็งอ้างว่าที่ทำดีกับมีนานุชก็เพราะติดหนี้บุญคุณที่ช่วย ชีวิตไว้ ในขณะที่ปูม้าเริ่มอึดอัดเพราะรู้ว่ามีนานุชก็มีใจให้กับชลนทีเหมือนที่ตน เป็นอยู่ ส่วนบุรินทร์ก็ตั้งตนเป็นคู่แข่งของชลนที เพราะชอบมีนานุชเช่นกัน ทางด้านมัสยาทนเป็นห่วงมีนานุชไม่ไหว ก็แอบขึ้นฝั่งในสภาพล่อนจ้อนมาเจอกับน้าหมึก รปภ. ที่เข้าใจว่ามัสยาเป็นคนบ้า ขณะที่น้าหมึกพยายามไล่มัสยา ศ.ดร.ธารามาพบเข้า เลยช่วยเหลือไว้ มัสยาเพียงแรกเห็นธารา ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่มี เลยพาลหลงรักธาราไปในทันที ศ.ดร.ธารา ไปสำรวจบริเวณที่ตนเคยพบนางเงือก และพบเห็นเกล็ดปลาประหลาดแวววาวสวยงาม พอนำมาส่องดูในแล็บ ก็พบว่าไม่ใช่เกล็ดปลาชนิดใดบนโลก ในการประชุมอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ดร.นาวิน ให้ทุกคนยื่นหัวข้อวิจัย เพื่อทำการขออนุมัติทุน ศ.ดร.ธารา จึงเสนอหัวข้อการวิจัยเรื่องสัตว์น้ำสปีชี่ส์ใหม่ที่จะทำให้มหาวิทยาลัยโด่ง ดังไปทั่วโลก ดร.นาวิน ชอบอกชอบใจ แต่พอรู้ว่าสัตว์น้ำสปีชี่ส์ใหม่คือ นางเงือก ดร.นาวินก็หัวเสีย แต่ธารายืนยันว่าจะพิสูจน์ให้ได้ว่าในทะเลไทยนั้นมีนางเงือกอยู่จริง ขาดคำที่ประชุมก็หัวเราะเยาะจนธาราเศร้าซึม ชลนทีสังเกตเห็นจึงถามสาเหตุ ธารายอมบอกว่ากำลังพิสูจน์ว่านางเงือกมีจริง ชลนทีถึงกับอึ้งแต่ก็เชื่อมั่นในตัวพ่อว่าไม่ได้เพี้ยน ถึงแม้ชลนทีจะไม่เชื่อเรื่องนางเงือกเลยก็ตาม ธาราไปนั่งดื่มปรับทุกข์ พอดีกับที่ อุทก นักข่าวหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งโดนไล่ออก ได้ยินธาราพล่ามเรื่องนางเงือก ก็สนใจคิดว่าถ้าได้ทำข่าวนางเงือกก็จะได้เป็นนักข่าวดังไปทั่วโลก อุทกจึงร่วมมือกับธารา มัสยาเตือนธาราว่าอย่าเสียเวลาสืบหาเลย เพราะนางเงือกเมื่อขึ้นบกครีบหางก็จะกลายเป็นขาเหมือนมนุษย์ทั่วไป ธาราย้อนถามว่าแล้วถ้าขาเปียกน้ำล่ะ มัสยาพลั้งหลุดปากตอบไปว่าถ้าเปียกน้ำ ขาก็จะกลายเป็นครีบหางอีกครั้ง ถึงวันวาเลนไทน์วิฬาร์พยายามนัดเดทกับชลนที แต่ต้องผิดหวังเพราะชลนทีนัดกับมีนานุชไปแล้ว ชลนทีพามีนานุชไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แล้วเริ่มสังเกตเห็นความแปลกประหลาด เมื่อเห็นว่ามีนานุชเดินผ่านตู้ปลาการ์ตูนก็ต่างมาเรียงแถวกันทักทาย เมื่อมาถึงตู้ปลาฉลาม ปลาฉลามพุ่งตรงเข้ามาแล้วขยับปากคุยกับมีนานุช ก่อนจะผงกหัวคำนับทักทาย ชลนทีจึงถามสาเหตุแต่มีนานุชอ้ำอึ้งไม่ตอบ ชลนทีได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ขากลับฝนตกลงมา มีนานุชมีอาการกลัวการเปียกฝน จนชลนทียิ่งงงหนัก มีนานุชซื้อถุงขยะมาห่อตัวกันฝนจนมิดชิด ชลนทีไปปรึกษากุ้งเผา ก็ได้ความว่ามีนานุชอาจเป็นโรคกลัวน้ำ แต่ความสงสัยของชลนทีก็เพิ่มทวีขึ้น เมื่อชลนทีกับมีนานุชไปหาวิฬาร์ที่ห้องพักซึ่งมีแมวเปอร์เซีย มีนานุชมีท่าทางกลัวแมวในขณะที่แมวก็มาดม ๆ เลีย ๆ แต่ที่ขาของมีนานุช คืนหนึ่งที่ห้องอาบน้ำในหอพัก มีนานุชกับมัสยา แอบมานอนแช่น้ำในสภาพนางเงือกอย่างสบายอารมณ์ ทั้งสองมีความเห็นตรงกันคืออยากอยู่บนโลกมนุษย์ ยังไม่อยากกลับไปโลกใต้สมุทร มัสยาสะบัดครีบหางตีน้ำเล่น เผอิญ ศ.ดร.ธารา เดินผ่านมานึกว่าเกิดเรื่องร้ายในห้องอาบน้ำนักศึกษาหญิง จึงรีบทุบประตู มีนานุชกับมัสยารีบเอาไดร์เป่าครีบหางให้แห้ง จนธาราพังประตูเข้ามาเห็นมัสยาและมีนานุชนั่งอยู่กับพื้นมีผ้าเช็ดตัวปิดขา ทั้งสองร้องลั่นว่าโป๊อยู่ ให้ธาราออกมารอข้างนอก เมื่อทั้งสองเดินออกไป ธาราเข้าไปสำรวจก็ได้เจอเกล็ดนางเงือกแบบที่เคยเห็น และเมื่อนำไปตรวจในแล็บ จึงรีบโทรบอกอุทก ทั้งสองตั้งสมมุติฐานว่าอาจมีนางเงือกแฝงกายอยู่ในมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยจัดให้มีการออกค่ายเพื่อสร้างอาคารของโรงเรียนในชนบทบนภูเขา ห่างไกลความเจริญ แต่แท้จริงแล้วธารามีจุดประสงค์ที่จัดค่าย เพื่อต้องการสืบว่ามีนางเงือกแฝงอยู่กับนักศึกษาหรือไม่ โดยอุทกปลอมตัวเป็นคนหาของป่าแอบเอากล้องถ่ายรูปไป ธาราชวนแกมบังคับให้นักศึกษาทุกคนลงเล่นน้ำตก แต่มีนานุชไม่อยากลงน้ำ ธารายุให้ชลนทีดึงมีนานุชให้ลงไปเล่นน้ำด้วย ปรากฏว่ามีนานุชไม่ยอมขึ้นจากน้ำจนดูมีพิรุธ เมื่อปลอดคนมีนานุชแอบขึ้นมา อุทกรีบกดชัตเตอร์ถ่ายรูปไว้แม้จะเห็นไม่ชัดแต่ก็พบว่ามีหางปลาโผล่ในภาพ กลับมาที่มหาวิทยาลัยธารากับอุทกเล่าให้มัสยาฟังว่ามีนานุชเป็นนางเงือก มัสยาตกใจแต่ก็แกล้งถามถึงแผนการต่อไป ธาราบอกว่ามีนานุชกับชลนทีกำลังดูใจกันอยู่ จึงจะใช้โอกาสนี้ทำให้ชลนทีชวนมีนานุชไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านตากอากาศของตน และจะหาทางสาดน้ำเพื่อให้มีนานุชกลับสภาพเป็นนางเงือก ณ บ้านตากอากาศริมทะเล ขณะทานอาหาร ธาราสาดน้ำใส่หน้าตักและขาของมีนานุชจนเปียกโชก อุทกซึ่งแอบถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพเคลื่อนไหว ปรากฏว่าไม่เกิดอะไรขึ้น ธาราหน้าแตกโกหกชลนทีว่าไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสาเหตุที่มีนานุชไม่เป็นไรก็เพราะมัสยาแอบบอกไว้ล่วงหน้า พอกลับหอพักจึงเห็นว่ามีนานุชเอาพลาสติกที่ใช้ห่ออาหารพันไว้มิดชิด ตั้งแต่ปลายเท้ายันหน้าอก ก่อนจะสวมเสื้อและกางเกงขายาวปิดไว้ ธารากับอุทกยังไม่ละความพยายาม ในงานการประกวดมิสเมอร์เมด ซึ่งวิฬาร์หมายมั่นปั้นมือว่าจะชนะ ได้จ้างฝ่ายศิลป์มืออาชีพให้ทำหางเงือกสุดสวยใส่ประกวด แต่เมื่อเห็นหางนางเงือกของมีนานุชสวยพอ ๆ กับตน จึงจุดไฟเผาหางเงือกของมีนานุช แต่ขณะที่มีนานุชจะถอนตัวจากการประกวด ธารากับอุทกก็มาสาดน้ำ คราวนี้อุทกกดชัตเตอร์ได้ภาพมีนานุชมีหางเป็นเงือก จากนั้นชลนทีกับกุ้งเผาก็มาอุ้มมีนานุชขึ้นเสลี่ยง ประกวดจนชนะได้ตำแหน่งมิสเมอร์เมด ธารานำภาพไปยืนยันกับ ดร.นาวิน แต่กลับถูกไล่ออก เพราะไม่รู้สึกว่าภาพมีนานุชมีหางเป็นเงือกเป็นเรื่องแปลกแปลก เพราะการประกวดมิสเมอร์เมด ก็ต้องแต่งเป็นนางเงือก มัสยาเห็นใจแต่พูดความจริงไม่ได้ ชลนทีได้อ่านสมุดบันทึกเกี่ยวกับนางเงือกที่ธาราเขียนไว้ พร้อมรูปถ่ายที่น้ำตก ทำให้ชลนทีแคลงใจเริ่มสืบหาประวัติของมีนานุช ก็พบว่าไม่มีประวัติในสารระบบ ชลนทีถามมีนานุช แต่มีนานุชรับปากว่าจะบอกความจริงในวันหนึ่ง ความรักของชลนทีกับมีนานุชกำลังไปได้สวย ถึงแม้จะมีอุปสรรคจากวิฬาร์ และบุรินทร์ ส่วนกุ้งเผาก็ถือคติน้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน เลยหยอดจีบปูม้าทุกทีที่มีโอกาส จนความรักเริ่มจะงอกเงยให้เห็นบ้างแล้ว